ถึงใหม่กับเดือนเพื่อนรัก
ปีนี้สำนักงานเราพาไปเที่ยวภูเก็ต แต่ไม่ใช่จะได้ไปทุกคนนะ ต้องดวงแข็งจับสลากได้ ถึงจะได้โกเซาท์กะเค้า ปกติจับอะไรไม่เคยได้ ตั้งแต่มีกุมารทองมาอยู่ด้วยนี่โชคดีหลายอย่าง
โชคดีต่อที่สองคือ ตอนนั่งเครื่องทั้งไปและกลับ ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ได้นั่งติดหน้าต่างทั้ง 2 เที่ยว ชวยเสียวดีนักแล ทิวทัศน์ที่เห็นจากบนฟ้าลงมานี่มัน สวรรค์ชัดๆอ่ะ
พอไปถึงสนามบินภูเก็ต เราต้องนั่งรถย้อนกลับเข้ามาในตัวเมืองพังงา ผ่านสะพานสารสินที่เรารู้จักกันดี เพื่อเที่ยวชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาหินปูน ที่รายล้อมด้วยทะเล ถ้ามองจากเครื่องบินลงมา จังหวัดพังงานี่มีภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์มากเลยนะ เดี๋ยววันหลังจะไปหาภาพจาก Google Earth มาให้ดู
ภูเขาที่เห็นในภาพข้างบน นักท่องเที่ยวเรียกว่า "เขาหมาจู" ไม่ต้องอธิบายก็คงรู้ที่มานะ ว่ามาได้ยังไง
ภูเขาตระหง่าน น้ำทะเลใสๆ ป่าไม้เขียวๆ มาที่นี่ที่เดียวได้ครบทุกอย่าง
เค้ามีบริการพายเรือคายัคนำเที่ยวด้วย จะได้เข้าไปชมภูเขาใกล้ๆได้ แต่พวกเราอยู่เรือใหญ่ อยากดูใกล้ต้องซูม
นั่งเรือไปเราจะผ่านเกาะปันหยี เกาะนี้เป็นเกาะอัศจรรย์นะ เพราะเกิดจากมือคนสร้างทั้งหมดเลย เป็นแพขนาดใหญ่มาต่อกันเป็นหมู่บ้าน แม้แต่สนามฟุตบอลยังเป็นไม้ ที่เห็นในรูปคือสถานีอนามัยกลางทะเล ซึ่งยังคงแบบแปลนเหมือนบนบกเปี๊ยบ ไม่คิดจะเปลี่ยนกันบ้างเลย
นี่คือถ้ำลอด ปกติจะสามารถนำเรือเล็กลอดได้ แต่ว่าวันนี้น้ำขึ้น กัปตันเลยไม่กล้างเสี่ยง กลัวโดนหนีบตายคาถ้ำกันยกสำนักงาน
แล้วเราก็เดินทางมาถึงเกาะตะปู จุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของพังงา น้ำทะเลที่เกาะนี้ใสมากๆ แถมหาดทรายขาวสะอาดน่าเล่น แต่ไม่มีใครเค้าเล่นกัน เพราะส่วนใหญ่ผ่านมาถ่ายรูปแล้วก็ไป เค้าว่ากันว่าเกาะตะปูนี้จะตั้งอยู่ได้อีกไม่เกิน 50 ปี เพราะฐานมันแคบลงเีรื่อยๆแล้ว
หันมาอีกทีบนเกาะ เจอแหม่มคนนี้ืยืนถ่ายรูปกับเขาพิงกัน เป็นหน้าผาที่เอียงพิงกันอยู่สองด้าน เห็นหน้าตาแกแล้วนึกถึงเจ้าหญิงแห่งวังสุลต่านอะไรพวกนั้นนะ
บนเกาะมีสินค้าของชาวเลวางขายเต็มไปหมด ราคาก็แพงเอาเรื่อง (จะว่าไปแถวภาคใต้นี่ ไม่มีอะไรถูกสักอย่างนะ) ที่เห็นใส่เสื้อสีม่วงพุงใหญ่ๆนั่นไกด์ของเราเอง ชื่อคุณยุงกับคุณพงษ์ เดินทางมาแล้วรอบโลก น่าอิจฉาอ่ะ
พอถึงเที่ยง เราก็หันหัวเรือกลับมากินข้าวที่เกาะัปันหยี ซึ่งมีร้านอาหารเยอะแยะไปหมด วิวที่มองจากท่าเรืออย่างที่เห็นในภาพนี้ คิดถึงหนังจีนสมัยก่อนที่มีหุบเขาเหลียงซานอะไรพวกนั้น มันสวยจริงๆนะซาร่า
ตกเย็นเราเข้าพักที่โรงแรมชื่อะไรจำไม่ไ้ด้ เป็นโรงแรมสไตล์บาหลี ตกแต่งหรูหราสวยงาม ราคาก็แพงเอาเรื่อง แต่ถ้ามากับทัวร์เค้าบอกว่าค่าห้องลดลงครึ่งต่อครึ่งเลยล่ะ แต่เราก็มิใด้สนใจ เพราะมิได้จ่ายเจ๊า
ตื่นเช้ามาอีกวัน เราขึ้นเรือเฟอร์รี่ลำเบ้อเริ่มมุ่งหน้าเข้าสู่หมู่เกาะพีพี ซึ่งมีเกาะเด่นได้แก่เกาะพีพีเล และพีพีดอน และเราจะแวะดำน้ำดูปะุการังกันด้วยนะ ว๊าววว
จากฝั่งท่าเรือไปเกาะพีพี ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ฟังเหมือนนาน แต่น้ำทะเลใสๆกับเกาะแก่งสวยๆ มันชวนให้วิ่งถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ เผลอแป๊บเดียว ถึงซะแล้ว
นี่คือจุดที่เราจะลงดำน้ำดูปะการัง เสียดายว่ารูปถ่ายตอนดำน้ำอยู่อีกกล้องนึงที่กันน้ำได้ ของพี่แอ๋ว หัวหน้างานพัสดุ ยังตามรูปมาไม่ได้เลย
อ้อ ลืมไป ขาไปเราจะผ่านอ่าวมาหยาอันเลื่องชื่อด้วย ที่เค้าใช้ถ่ายทำเรื่อง The Beach อันมีลีโอนาดี ดิคาปริโอแสดงนำน่ะ แต่ว่าได้แต่มองทางเข้าอ่าว เพราะเรือใหญ่เข้าไม่ได้ เลยได้แต่มองทางเข้าตาปริบๆแบบนี้
ในที่สุด เราก็มาถึงเกาะพีพีซะที เห็นธงไทยโบกสะบัดแ้ล้วชื่นใจ ประเทศไทยนี่มีทรัพยากรที่สุดยอดหลายอย่าง ถ้าไม่ตีกันเองตายไปซะก่อน เราคงเจริญก้าวหน้าได้ในสักวันหนึ่ง
นี่คือชายหาดที่อยู่ในเกาะพีพี หาดนี้จะหันหน้าเข้าหาแผ่นดินใหญ่นะ เป็นหาดที่คลื่นสงบและตื้นมากๆ เราเดินออกไปประมาณ 200 เมตร น้ำยังท่วมไม่ถึงอกเลยอ่ะ แต่น้ำทะเลนิ่งๆแบบนี้เล่นไม่สนุกหรอก ต้องคลื่นโตๆแบบที่ปราจีน มันถึงจะเข้าท่า
อันนี้คือบ้านพักของเกาะพีๆที่เรียงรายกันอยู่ มองจากท่าเรือ
มองไปอีกด้านก็จะเจอกับป่าภูเขาที่เขียวขจีได้ใจ น่าพาเธอสองคนไปหาเห็ดโคนนะ ท่าจะได้เยอะ
และนี่คือสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดบนเกาะพีพี สาวน้อยชาวญี่ปุ่นต่างพากันนั่งตากแดดอ่อนๆ นุ่งบ้างไม่นุ่งบ้าง ความงามของสิ่งมีีชีวิตมันอยู่ตรงนี้นี่เอง
สรุปว่าทริปนี้ประทับใจมาก เพราะนอกจากจะไม่ได้จ่ายอะไรเลยแล้ว ยังเป็นการท่องเที่ยวแบบสะดวกสบาย เพราะไกด์ของเราเก่งและบริหารจัดการดีมาก กินอาหารไม่ต้องรอคิว เข้าที่พักรวดเร็ว รถออกตรงเวลา
สนนราคาก็ประมาณ 9500 บาท/คน ทั้ง 3 วัน 2 คืน
เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้จริงๆ (หรือไม่รู้ ไม่ไปหว่า)
คิดถึง
กวาง
ตามมาอ่านจดหมายอะคะ
ตอบลบมันอยู่ตรงไหนนนนน
ภาพสวยจริงๆ
ฝีมือขั้นเทพแล้วเน้อ
duan^__^
Oh... จอร์จ มันยอดมาก
ตอบลบ1. วิวสวยงาม โชคดี ดวงแข็งนี่เป็นของจอร์จเสมอเลยนะ
2. ภาพท่านที่ถ่ายมาสวยมาก แต่รูปท่านดูทีไรก็เข้าท่านะ (ดูเป็นผู้เชี่ยวชาญ-คือกว่าจะได้ตำแหน่งนี้มาอาจจะยาวนานนิดนึง อิอิ)
3. เฮอะๆ ไม่อยากจะคิดหรอกว่าค่าอาหารจะแพงแค่ไหน...
4. หาเห็ดโคนน่ะ ไม่ต้องเสียตังค์ไปไกลขนาดนั้นก็ได้ ฮ่าๆๆ
5. ฝีมือถ่ายรูปขั้นเทพแล้วนะเนี่ย ขอชม
6. สุดท้าย ก็ไม่พ้นภาพสุดท้าย (เฮ่อ....ผู้ชายก็งี้แหละ..ว่าแต่ว่าถ่ายมาน้อยจัง )
7. คนบางคนเข้ามามัวแต่ดูรูปก็เลยไม่อ่านและบ่นว่า จดหมายอะไรวะหาไม่เจอ ฮ่าๆๆ)
ปล. ขอบคุณที่คิดถึงกัน
ใหม่
ดีค่ะ รูปสวยมากมากค่ะ จะไปสินปีไหม่ ขอทามว่าถ้าไปค้างคืนที่พีพีประมาน7วัน แล้วมีเรือแบบตรงถึงท่าเรือพีพีดอน ไม่จอดดำน้ำมีไมค่ะ ช่วยตอบหน่อย ขอบคุณค่ะ n_nan2008@hotmail.com
ตอบลบ