This is a blog
100 ข้อแล้วถูกกี่ข้ออ่ะกวาง
แล้วจะรู้ได้ยังไง เง้อ
มาเฉลยแล้วค่ะโจทย์การบ้านลิ้งค์นี้ค่ะ http://pankaewblog.blogspot.com/2011/03/11.htmlข้อ 1 ถูกต้องค่ะ ข้อ 2 ถูกต้องค่ะข้อ 3 ถูกต้องค่ะข้อ 4 ถูกต้องค่ะข้อ 5 ผิดค่ะ ดีใจ อิอิอิ คำตอบคือข้อ 1 ค่ะ ถ้าจะดูแกมีโทไฟต์ของพืชดอกดูได้ที่ 3และ 4 เพราะแกมีโทไฟต์ของพืชดอกคือนิวเคลียสทั้ง 8 ที่มีอยู่ในออวุลภายในรังไข่และทิวย์นิวเคลียสกับเจเนเรทิพนิวเคลียสของละอองเรณูซึงจะพบได้ในบริเวณยอดเกสรตัวเมียข้อ 6 ถูกต้องค่ะข้อ 7 อ่านไม่ออกซะงั้นข้อ 8 ถูกค่ะข้อ 9 ถูกค่ะข้อ 10 ถูกค่ะข้อ 11 ถูกค่ะข้อ 12 ผิดค่ะ คำตอบคือข้อ 3 ต้นเฟินที่เราเห็นกันทั่วๆไปเป็นต้นสปอโรไฟต์ ซึ่วมีโครโมโซม 2n ดังนั้นใบเฟินซึ่งเราจะนำมาจัดแจกันจึงเป็นส่วนของสปอโรไฟต์และมีโครโมโซม 2n ด้วย ข้อ 13 ถูกค่ะข้อ 14 ผิดค่ะ คำตอบคือข้อ 3 ภายในembryo sac ของพืชดอกจะมีไข่อยู่เช่นเดียวกับอวัยวะสร้างเซลสืบพันธ์ เพศเมีย ของเฟินเพราะมีไข่อยู่ภายในเหมือนกันข้อ 15 ถูกค่ะข้อ 16 ถูกค่ะข้อ 17 อ่านไม่ออกอีกข้อ 18 ถูกค่ะข้อ 19 ผิดค่ะ คำตอบคือข้อ 3 ในพื้ชดอกมีการปฏิสธิดังนั้นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิสนธิคือไข่และโพลาร์นิวเคลียสดังนี้ ไข่+สเปิร์ม >>>ไซโกต(2n)=เอมบริโอ และ สเปิร์ม+โพลาร์นิวเคลียส >>>>เอนโดสเปิร์ม(3n)ข้อ 20 ถูกค่ะ ข้อ 21 ถูกค่ะข้อ 22 ผิดค่ะ คำตอบคือ ข้อ 4 pollination เป็นการถ่ายทอดละอองเกสรตัวเมีย ซึ่งจะเกิดการผสมกันซึ่งเป็นการสืบพันธ์แบบมีเพศข้อ23 ถูกค่ะข้อ 24 ถูกค่ะข้อ 25 ถูกค่ะข้อ 26 ถูกค่ะข้อ 27 ผิดค่ะ คำตอบคือ 4 เหตุผลคือ cell parenchyma เป็นเซลล์ที่มีความสามารถในการแบ่งเซลล์ได้และเจริญได้เร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถสังเคราะห์ได้ด้วยแสงและก็บสะสมอาหารได้ด้วย ทำให้มีแมทบอลึซึ่มสูงและแบ่งเซลล์ได้จึงเป้นไปเป็นcambiumซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเจริญได้ข้อ 28 อ่านไม่ออก เง้อข้อ 29 ถูกค่ะ เฉลยประมาณ 25เปอร์เซ็นต์ก่อนค่ะ งานเข้า...
ข้อ 30 ถูกค่ะข้อ 31 ไม่ยอมตอบ เฉลยข้อ 4 ค่ะ เซลล์ในชั้นคอร์เทกซ์เป็นเซลล์พวกเนื้อเยื่อถาวร จึงไม่มีการแบ่งเซลล์แล้วเซลล์จึงอยู่ในระยะอินเตอร์เฟสทั้งหมดข้อ 32 ไม่ยอมตอบอีก เฉลยข้อ 4 ค่ะ เป็นpolyploidเนื่องจากเมื่องสร้างเซลล์สืบพันธุ์แล้วไม่โครโซมทั้ง 12 แท่งไม่เข้าคู่กันแสดงว่าเซลล์สืบพันธุ์มีโครโมโซม 12 แห่งหรือ 2ชุด เมื่อผสมเกสรจึงมีโครโมโซมมากกว่า2ชุด จึงเป็นpolyploidyซึ่งหมายถึงมีโครโมโซมมากกว่า 2 ชุด คืออาจเป็น3ชุด(3n) หรือ4ชุด(4n)ข้อ 33ไม่รู้อีก--*เฉลยข้อ 1 เพราะ A และ B ไมโทซิสทำให้ต้นเจริญและเจริญไปเป็นต้นสปอโรไฟต์สร้างสปอร์ข้อ 34 ผิดค่ะ อิอิอิ คำตอบคือข้อ 4 pollenคือระอองเรณู เป็นแกมีโทไฟต์เพศผู้ของพืชดอก embryo sac ถุงเอมบริโอเป็นแกมีโทไฟต์เพศเมียของพืชดอกข้อ 35 อ่านไม่ออก6*6ข้อ 36 ถูกต้องค่ะข้อ 37 ถูกค่ะข้อ 38 ถูกค่ะข้อ 39 ผิดดดดดด คำตอบคือข้อ 1 อาหารสะสมของเมล็ดถั่วเหลืองอยู่ในส่วนที่เรียกว่าใบเลี้ยง (Cytyledon) ในพื้ชพวกนี้ไม่มี endospermแยกจากใบเลี้ยง ดังนั้นอาหารที่ใช้ในการงอกจึงมาจากใบเลี้ยงไม่ได้มาจากendosperm ข้อ 40 ถูกค่ะข้อ 41 ผิดอีกแร้ว คำตอบคือ ข้อ 4 รากของข้าวเมื่ออายุ3เดือนจะเจริญมาจากส่วนอื่นๆของลำต้นข้าวเป็นระบบรากฝอย รากนี้ได้มาจากเรติเคิล ไม่ได้แตกแขนงมาจากรากแก้ว และไม่ได้เป็นส่วนหนึงของเมล็ดด้วยข้อ 42 ผิดดดด คำตอบคือ ข้อ3 เอมบริโอของพืชดอกคือส่วน epicotyl, hypocotyl radical และใบเลี้ยง ส่วนเอนโดสเปิมร์นั้นเป็นอาหารสะสมซึ่งไม่ได้เกิดจากสเปิร์มและนิวเคลียสตัวเดียวกันกับที่เกิดเอมบริโอข้อ 43 คำตอบไม่ครบตอบข้อ 4 ค่ะ พืชยืนต้นจะมีอาการดังกราฟเพราะฤดูฝนน้ำมากจะเจริญเติบโตเร็วในฤดูแล้งน้ำน้อยจึงโตช้าดังกราฟ ข้อ 44 ถูก กรี๊ดดดดข้อ 45 ถูกอีกแล้ว เย้ข้อ 46 ถูกๆๆๆ วู้ๆข้อ 47 ผิด 55 คำตอบคือข้อ 2 เพราะเมล็ดกล้วยไม้ไม่มีใบเลี้ยง และไม่มีอาหารสะสม จึงต้องได้อาหารจากขวดเลี้ยงในสภาพธรรมชาติจะได้อาหารจากรากช่วยย่อยสลายได้ ข้อ 48 ผิด TT คำตอบคือข้อ 4 จากรูปวงปีเรียมตามลำดับ คือน้ำฝน 978 มิลลิลิตร วงใหญทที่สุด วงที่ 2 นับจากข้างในออกมาข้อ 49 ผิดดดด คำตอบคือข้อ 1 บริเวณที่ยืดยาวออกคือ บริเวณหมายเลข 2-3 เป็นบริเวณที่เซลล์มีการยืดตัว ข้อ 50 ผิดดดด คำตอบคือข้อ 1 ส่วนของเปลือกไม้คือ โพลเอ็ม คอร์ก และเอพิเดอร์มิสข้อ 51 ผิดดดด คือตอบคือ ข้อ 4 ใบเลี้ยงคุ่ของพืชจะฝ่อหายไป เมื่ออาหารหมดและหมดหน้าที่แล้วแต่ของละหุ่งอาหารสะสมอยู่ในเอนโดสเปิร์ม สำหรับข้าวโพดรากเป็นระบบรากฝอยไม่มีรากแก้ว คือรากที่เจริญจากแรติเคิล ดังนั้น แรติเคิลของข้าวโพดจึงฝ่อหายไป ข้อ 52 กรี๊ดดดดดดถูกต้องค่ะ ข้อ 53 ผิดงะ คำตอบคือข้อ 4 การเจริญเติบโตของรากเฟื่องฟ้าจำกัด ทำให้ปรับตัวออกดอกเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ข้อ 54 ถูก เย้ๆข้อ 55 ถูกอีก เย้ๆข้อ 56 ตาฟางอ่านไม่ออกข้อ 57 ผิดอะ คำตอบคือข้อ 3 ส่วนที่ลูกศรชี้คือเอนโดสเปิร์มซึ่งก็คือเนื้อและน้ำของมะพร้าวนั่นเอง ข้อ 58 ถูก กรี๊ด อิอิข้อ 59 ไม่รู้อีก เฉลย ข้อ 2 ค่ะ ข้อ ก โครงสร้างA และ E คือส่วนที่จะเจริญไปเป็นลำต้น และข้อ ค ใบเลี้ยงข้าวโพดอยู่ใต้ดินใบเลี้ยงถุั่วแดงอยู่เหนือดิน ข้อ 60 ผิดงะ คำตอบคือข้อ4 ลักษรของกิ่งที่ทาบจะเหมือนต้นเดิม และลูกที่เกิดจากการถ่ายฝากตัวอ่อน จะเป็นลูกของแม่ ซึ่งเป็นเจ้าของไข่ไม่ใช่แม่ที่ต้้งท้องข้อ 61 อ่านไม่ออกซะงั้น ข้อ 62 ผิดอะ คำตอบคือข้อ 4 ต้องทำการวัดดัชนีการงอกของเมล็ดเพื่อดูว่าเมล็ดนั้นแขแข็งแรงดีหรือไม่ข้อ 63 ผิดดดด คำตอบคือ ข้อ 1 ปัจจุบับมีการผลิตองุ่นไม่มีเมล็ดนั้น เนื่องจากการคัดเลือกพันธุ์พืช โดยเมนษย์เอาจีนที่มีลักณะที่ต้องการผสมจนได้พันธุ์แท้โดยการผสมตัวเองหรือผสมจากสิ่งมีชีวิตในพวกเดียวกันตระกูลเดียวกันที่เรียกกว่า รืิำพพกรืเ ผสมจะให้พันธุ์แท้ในลักณะที่ต้องการคือการไม่มีเมล็ดนั่นเองข้อ 64 ถูกกรี๊ดดๆๆๆข้อ 65 ถูกอีก เย้ข้อ 66 ผิด คำตอบคือข้อ 1 พืชช่วงที่เป็นแฮพลอยด์เจริญมากคือช่วงที่มีแกมีโพไฟต์เด่นในธรรมชาติได้แก่พวกมอสคือข้าวตอกฤษี พักก่อน ไป work out ... at ริมบึง ข้อ 60
ข้อ 67 ผิดงะ เฉลย ข้อ 2 megaspore mother cell แบ่งตัวเป็น megasporeเป็นการแบ่งตัวแบบไมโอซิส มีการ crossing over ในช่วง prophase Iข้อ 68 ผิด แง๊ๆ เฉลย 1 พวกปรงมีการปฏิสนธิครั้งเดียว ไม่มีรังไข่อย่างพืชดอกจงเป็นพืชที่มีเมล็ดเปลือยข้อ 69 อ่านไม่ออกซะงั้น เฉลยข้อ 3 วงจรชีวิตแบบสลับของพืชมีแกมมีโตไตคือA มีโครโมโซมชุดเดียว B จึงเป็นไมโทซิสและ C เป็นสปอโรไฟต์ Dคือการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสได้สปอร์ซึ่งมีโครโมโซมชุดเดียวข้อ 70 อ่านไม่ออกอีก ข้อ 71 ผิดค่ะ เฉลยข้อ 4 ต้นที่เห็นชายผ้าสีดาคือ ต้นสปอโรไฟต์ ชายผ้าสีดาเป็นเฟินชนิดหนึ่ง ส่วนต้นแกมีโทไฟต์เป็นขนาดเล็กอยู่ในดินหากินอิสระได้ข้อ 72 ถูกกกกกกกกก ดีจายเจงๆ ขี้เกียจพิมพ์เฉลย ยาวโพดๆๆข้อ 73 ตอบข้อ 1 และ 3 sporophyteของมอสพึ่งพาและได้อาหารจาก gametophyte จึงเป็นเหมือนปรสิต แต่ถ้าคิดว่าเป็นอยู่รอดของสปีชีส์ sporophyte และ gametophyte ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเพราะวงจรชีวิตเป็นแบบสลับจึงเป็นแบบ mutualismข้อ 74 ถูกค่ะข้อ 75 ไม่รู้เลย งั้นเฉลย ข้อ 1 A คือสปอโรไฟต์ของเฟิน Cคือ สปอร์ไฟต์ของมอส Bคือแกมีโทไฟต์ของเฟิน Dคือแกมีโทไฟต์ของมอสข้อ 76 ไม่รู้อีก แกล้งคนเฉลยแน่เลย เฉลย ข้อ 3 กล้วยไม้คือพืชดอก มีปอร์โรไฟต์เจริญกว่าแกมีโทไฟต์และแกมีโทไฟต์เจริญอยู่บนสปอโรไฟต์ตลอดชีวิตคือถุงเอมบริโอ เจริญอยู่บนต้นพืชตลอดชีวิตข้อ 77 ถูกๆๆๆข้อ 78 ถูกๆๆข้อ 79 ผิด แง้ววว ไปสวดมนต์ก่อนเด้อ พรุ่งนี้เฉลยข้อ 79 ต่อค่ะ
ข้อ 79 ตอบข้อ 1 ราขนมปังและสาหร่ายสไปโรไจราจะมีการสืบพันธุ์แบบ conjugation โดยมีการเทียบสายแล้วเกิดการรวมกันของโพรโทพลาซึมซึ่งต่อมาจะเจริญไปเป็นราขนมปังและสาหร่ายสไปโรไจราได้อีกข้อ 80 ผิดอีก ตอบข้อ 4 จะต้องมีeggมากกว่า 1 และ spermต้องมากกว่าหนึ่งด้ัวย เพราะว่า สเปิร์มบวกไข่ ชาย สเปิร์มบวกไข่หญิง อย่างน้อยสุดต้องใช้ไข่และสเปิร์มอย่างละ 2เซลล์จึงเกิดแฝดชายญิงได้4คนข้อ 81 ผิดอีกแว้ว TT เฉลยข้อ 4 การงอกใหม่ในพวกกุ้ง ปู หรือปลาดาวจะถูกควบคุมโดยนิวเคลียสไซโทพลาซึมและสภาพแวดล้อมภายนอกโดยปัจจัยเหล่านี้จะร่วมกันในการควบคุมการงอกใหม่ ข้อ 82 ถูกๆๆๆๆข้อ 83 ผิดดดด เฉลยข้อ 2 ผึ้งตัวผู้มีโครโมโซมชุดเดียว haploid numberเนื่องจากไข่ไม่ได้รับการผสมจากสเปิร์มและโพลาร์บอดี้ก็มีโครโมโซมชุดเดียว เนื่องจากผ่านขบวนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสมาแล้ว สำหรับผึ้งตัวเมียจะมีโครโมโซม 2nข้อ 84 85 86 87 88 ถูกต้องค่ะข้อ 89 ผิด เฉลยข้อ 3ในผู้หญิงจะมีไข่ตกทั้งสิ้นประมาณ 400ฟอง ตั้งแต่ประมาณอายุ 12-45 ปี โดนตกเดือนละฟองสลับกันระหว่างรังไข่ซ้ายและขวาฃข้อ 90 ผิด เฉลยข้อข้อ 3 การตัดท่อนำไข่และตัดท่ออสุจิเป็นการทำหมันถาวรที่มีผลกระทบกระเทือนต่อความต้องการทางเพศน้อยสุด เพราะร่างกายสามารถสร้างฮอร์โมนเพศได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งควบคุมการความต้องการทางเพศได้ตามปกติเพราะไม่มีการทำลายอัณฑะและรังไข่ให้ได้รับความเสียหายข้อ 91 ผิด เฉลยข้อ 4 ในขณะที่มีประจำเดือนฮอร์โมนestrogen และprogesteroneลดลงอย่างมากผนังมดลูกไม่ได้รับการกระตุ้น ทำให้ผนังมดลูกถูกทำลายเลือดและเนื้อเยื่อบางอย่างที่ผนังมดลูกหลุดออกมาเป็นประจำเดือนข้อ 92 93 ถูกค่ะข้อ 94 ผิดค่ะ เฉลยข้อ 4 corpus luteum คือผนังรังไข่ที่เจริญมากจากgranulosa cell โดยไข่ที่เจริญและหลุดออกมาจากfollicleแล้วเซลล์ของfollicleจะเจริญไปเป็น corpus luteumซึ่งมีสีเหลืองสร้างฮอร์โมนเอสโทรเจนและprogesteroneข้อ 95-96 ถูกค่ะข้อ 97 ผิดค่ะ เฉลยข้อ 3 ในการหลั่งอสุจิ 1 ครั้งในคนปกติจะมีอสุจิประมาณ 180-500ล้านตัว ข้อ 98 -99 ถูกต้องนะคะข้อ 100 เหตุผลคืออ่านไม่ชัดเชื่อแว้วว่าอ่านหนังสือเพื่อทำข้อสอบไม่ทัน ที่เหลืออีก 64 ข้อจะทำต่อมั๊ยคะ!!!
ไหนๆก็หลงเข้่ามาแล้วยังไงฝากข้อความไว้ด้วยนะครับจะได้ไม่ลืมกัน
100 ข้อแล้วถูกกี่ข้ออ่ะกวาง
ตอบลบแล้วจะรู้ได้ยังไง เง้อ
ตอบลบมาเฉลยแล้วค่ะ
ตอบลบโจทย์การบ้านลิ้งค์นี้ค่ะ http://pankaewblog.blogspot.com/2011/03/11.html
ข้อ 1 ถูกต้องค่ะ
ข้อ 2 ถูกต้องค่ะ
ข้อ 3 ถูกต้องค่ะ
ข้อ 4 ถูกต้องค่ะ
ข้อ 5 ผิดค่ะ ดีใจ อิอิอิ คำตอบคือข้อ 1 ค่ะ ถ้าจะดูแกมีโทไฟต์ของพืชดอกดูได้ที่ 3และ 4 เพราะแกมีโทไฟต์ของพืชดอกคือนิวเคลียสทั้ง 8 ที่มีอยู่ในออวุลภายในรังไข่และทิวย์นิวเคลียสกับเจเนเรทิพนิวเคลียสของละอองเรณูซึงจะพบได้ในบริเวณยอดเกสรตัวเมีย
ข้อ 6 ถูกต้องค่ะ
ข้อ 7 อ่านไม่ออกซะงั้น
ข้อ 8 ถูกค่ะ
ข้อ 9 ถูกค่ะ
ข้อ 10 ถูกค่ะ
ข้อ 11 ถูกค่ะ
ข้อ 12 ผิดค่ะ คำตอบคือข้อ 3 ต้นเฟินที่เราเห็นกันทั่วๆไปเป็นต้นสปอโรไฟต์ ซึ่วมีโครโมโซม 2n ดังนั้นใบเฟินซึ่งเราจะนำมาจัดแจกันจึงเป็นส่วนของสปอโรไฟต์และมีโครโมโซม 2n ด้วย
ข้อ 13 ถูกค่ะ
ข้อ 14 ผิดค่ะ คำตอบคือข้อ 3 ภายในembryo sac ของพืชดอกจะมีไข่อยู่เช่นเดียวกับอวัยวะสร้างเซลสืบพันธ์ เพศเมีย ของเฟินเพราะมีไข่อยู่ภายในเหมือนกัน
ข้อ 15 ถูกค่ะ
ข้อ 16 ถูกค่ะ
ข้อ 17 อ่านไม่ออกอีก
ข้อ 18 ถูกค่ะ
ข้อ 19 ผิดค่ะ คำตอบคือข้อ 3 ในพื้ชดอกมีการปฏิสธิดังนั้นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิสนธิคือไข่และโพลาร์นิวเคลียสดังนี้ ไข่+สเปิร์ม >>>ไซโกต(2n)=เอมบริโอ และ สเปิร์ม+โพลาร์นิวเคลียส >>>>เอนโดสเปิร์ม(3n)
ข้อ 20 ถูกค่ะ
ข้อ 21 ถูกค่ะ
ข้อ 22 ผิดค่ะ คำตอบคือ ข้อ 4 pollination เป็นการถ่ายทอดละอองเกสรตัวเมีย ซึ่งจะเกิดการผสมกันซึ่งเป็นการสืบพันธ์แบบมีเพศ
ข้อ23 ถูกค่ะ
ข้อ 24 ถูกค่ะ
ข้อ 25 ถูกค่ะ
ข้อ 26 ถูกค่ะ
ข้อ 27 ผิดค่ะ คำตอบคือ 4 เหตุผลคือ cell parenchyma เป็นเซลล์ที่มีความสามารถในการแบ่งเซลล์ได้และเจริญได้เร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถสังเคราะห์ได้ด้วยแสงและก็บสะสมอาหารได้ด้วย ทำให้มีแมทบอลึซึ่มสูงและแบ่งเซลล์ได้จึงเป้นไปเป็นcambiumซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเจริญได้
ข้อ 28 อ่านไม่ออก เง้อ
ข้อ 29 ถูกค่ะ
เฉลยประมาณ 25เปอร์เซ็นต์ก่อนค่ะ งานเข้า...
ข้อ 30 ถูกค่ะ
ตอบลบข้อ 31 ไม่ยอมตอบ เฉลยข้อ 4 ค่ะ เซลล์ในชั้นคอร์เทกซ์เป็นเซลล์พวกเนื้อเยื่อถาวร จึงไม่มีการแบ่งเซลล์แล้วเซลล์จึงอยู่ในระยะอินเตอร์เฟสทั้งหมด
ข้อ 32 ไม่ยอมตอบอีก เฉลยข้อ 4 ค่ะ เป็นpolyploidเนื่องจากเมื่องสร้างเซลล์สืบพันธุ์แล้วไม่โครโซมทั้ง 12 แท่งไม่เข้าคู่กันแสดงว่าเซลล์สืบพันธุ์มีโครโมโซม 12 แห่งหรือ 2ชุด เมื่อผสมเกสรจึงมีโครโมโซมมากกว่า2ชุด จึงเป็นpolyploidyซึ่งหมายถึงมีโครโมโซมมากกว่า 2 ชุด คืออาจเป็น3ชุด(3n) หรือ4ชุด(4n)
ข้อ 33ไม่รู้อีก--*เฉลยข้อ 1 เพราะ A และ B ไมโทซิสทำให้ต้นเจริญและเจริญไปเป็นต้นสปอโรไฟต์สร้างสปอร์
ข้อ 34 ผิดค่ะ อิอิอิ คำตอบคือข้อ 4 pollenคือระอองเรณู เป็นแกมีโทไฟต์เพศผู้ของพืชดอก embryo sac ถุงเอมบริโอเป็นแกมีโทไฟต์เพศเมียของพืชดอก
ข้อ 35 อ่านไม่ออก6*6
ข้อ 36 ถูกต้องค่ะ
ข้อ 37 ถูกค่ะ
ข้อ 38 ถูกค่ะ
ข้อ 39 ผิดดดดดด คำตอบคือข้อ 1 อาหารสะสมของเมล็ดถั่วเหลืองอยู่ในส่วนที่เรียกว่าใบเลี้ยง (Cytyledon) ในพื้ชพวกนี้ไม่มี endospermแยกจากใบเลี้ยง ดังนั้นอาหารที่ใช้ในการงอกจึงมาจากใบเลี้ยงไม่ได้มาจากendosperm
ข้อ 40 ถูกค่ะ
ข้อ 41 ผิดอีกแร้ว คำตอบคือ ข้อ 4 รากของข้าวเมื่ออายุ3เดือนจะเจริญมาจากส่วนอื่นๆของลำต้นข้าวเป็นระบบรากฝอย รากนี้ได้มาจากเรติเคิล ไม่ได้แตกแขนงมาจากรากแก้ว และไม่ได้เป็นส่วนหนึงของเมล็ดด้วย
ข้อ 42 ผิดดดด คำตอบคือ ข้อ3 เอมบริโอของพืชดอกคือส่วน epicotyl, hypocotyl radical และใบเลี้ยง ส่วนเอนโดสเปิมร์นั้นเป็นอาหารสะสมซึ่งไม่ได้เกิดจากสเปิร์มและนิวเคลียสตัวเดียวกันกับที่เกิดเอมบริโอ
ข้อ 43 คำตอบไม่ครบตอบข้อ 4 ค่ะ พืชยืนต้นจะมีอาการดังกราฟเพราะฤดูฝนน้ำมากจะเจริญเติบโตเร็วในฤดูแล้งน้ำน้อยจึงโตช้าดังกราฟ
ข้อ 44 ถูก กรี๊ดดดด
ข้อ 45 ถูกอีกแล้ว เย้
ข้อ 46 ถูกๆๆๆ วู้ๆ
ข้อ 47 ผิด 55 คำตอบคือข้อ 2 เพราะเมล็ดกล้วยไม้ไม่มีใบเลี้ยง และไม่มีอาหารสะสม จึงต้องได้อาหารจากขวดเลี้ยงในสภาพธรรมชาติจะได้อาหารจากรากช่วยย่อยสลายได้
ข้อ 48 ผิด TT คำตอบคือข้อ 4 จากรูปวงปีเรียมตามลำดับ คือน้ำฝน 978 มิลลิลิตร วงใหญทที่สุด วงที่ 2 นับจากข้างในออกมา
ข้อ 49 ผิดดดด คำตอบคือข้อ 1 บริเวณที่ยืดยาวออกคือ บริเวณหมายเลข 2-3 เป็นบริเวณที่เซลล์มีการยืดตัว
ข้อ 50 ผิดดดด คำตอบคือข้อ 1 ส่วนของเปลือกไม้คือ โพลเอ็ม คอร์ก และเอพิเดอร์มิส
ข้อ 51 ผิดดดด คือตอบคือ ข้อ 4 ใบเลี้ยงคุ่ของพืชจะฝ่อหายไป เมื่ออาหารหมดและหมดหน้าที่แล้วแต่ของละหุ่งอาหารสะสมอยู่ในเอนโดสเปิร์ม สำหรับข้าวโพดรากเป็นระบบรากฝอยไม่มีรากแก้ว คือรากที่เจริญจากแรติเคิล ดังนั้น แรติเคิลของข้าวโพดจึงฝ่อหายไป
ข้อ 52 กรี๊ดดดดดดถูกต้องค่ะ
ข้อ 53 ผิดงะ คำตอบคือข้อ 4 การเจริญเติบโตของรากเฟื่องฟ้าจำกัด ทำให้ปรับตัวออกดอกเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์
ข้อ 54 ถูก เย้ๆ
ข้อ 55 ถูกอีก เย้ๆ
ข้อ 56 ตาฟางอ่านไม่ออก
ข้อ 57 ผิดอะ คำตอบคือข้อ 3 ส่วนที่ลูกศรชี้คือเอนโดสเปิร์มซึ่งก็คือเนื้อและน้ำของมะพร้าวนั่นเอง
ข้อ 58 ถูก กรี๊ด อิอิ
ข้อ 59 ไม่รู้อีก เฉลย ข้อ 2 ค่ะ ข้อ ก โครงสร้างA และ E คือส่วนที่จะเจริญไปเป็นลำต้น และข้อ ค ใบเลี้ยงข้าวโพดอยู่ใต้ดินใบเลี้ยงถุั่วแดงอยู่เหนือดิน
ข้อ 60 ผิดงะ คำตอบคือข้อ4 ลักษรของกิ่งที่ทาบจะเหมือนต้นเดิม และลูกที่เกิดจากการถ่ายฝากตัวอ่อน จะเป็นลูกของแม่ ซึ่งเป็นเจ้าของไข่ไม่ใช่แม่ที่ต้้งท้อง
ข้อ 61 อ่านไม่ออกซะงั้น
ข้อ 62 ผิดอะ คำตอบคือข้อ 4 ต้องทำการวัดดัชนีการงอกของเมล็ดเพื่อดูว่าเมล็ดนั้นแขแข็งแรงดีหรือไม่
ข้อ 63 ผิดดดด คำตอบคือ ข้อ 1 ปัจจุบับมีการผลิตองุ่นไม่มีเมล็ดนั้น เนื่องจากการคัดเลือกพันธุ์พืช โดยเมนษย์เอาจีนที่มีลักณะที่ต้องการผสมจนได้พันธุ์แท้โดยการผสมตัวเองหรือผสมจากสิ่งมีชีวิตในพวกเดียวกันตระกูลเดียวกันที่เรียกกว่า รืิำพพกรืเ ผสมจะให้พันธุ์แท้ในลักณะที่ต้องการคือการไม่มีเมล็ดนั่นเอง
ข้อ 64 ถูกกรี๊ดดๆๆๆ
ข้อ 65 ถูกอีก เย้
ข้อ 66 ผิด คำตอบคือข้อ 1 พืชช่วงที่เป็นแฮพลอยด์เจริญมากคือช่วงที่มีแกมีโพไฟต์เด่นในธรรมชาติได้แก่พวกมอสคือข้าวตอกฤษี
พักก่อน ไป work out ... at ริมบึง
ข้อ 60
ข้อ 67 ผิดงะ เฉลย ข้อ 2 megaspore mother cell แบ่งตัวเป็น megasporeเป็นการแบ่งตัวแบบไมโอซิส มีการ crossing over ในช่วง prophase I
ตอบลบข้อ 68 ผิด แง๊ๆ เฉลย 1 พวกปรงมีการปฏิสนธิครั้งเดียว ไม่มีรังไข่อย่างพืชดอกจงเป็นพืชที่มีเมล็ดเปลือย
ข้อ 69 อ่านไม่ออกซะงั้น เฉลยข้อ 3 วงจรชีวิตแบบสลับของพืชมีแกมมีโตไตคือA มีโครโมโซมชุดเดียว B จึงเป็นไมโทซิสและ C เป็นสปอโรไฟต์ Dคือการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสได้สปอร์ซึ่งมีโครโมโซมชุดเดียว
ข้อ 70 อ่านไม่ออกอีก
ข้อ 71 ผิดค่ะ เฉลยข้อ 4 ต้นที่เห็นชายผ้าสีดาคือ ต้นสปอโรไฟต์ ชายผ้าสีดาเป็นเฟินชนิดหนึ่ง ส่วนต้นแกมีโทไฟต์เป็นขนาดเล็กอยู่ในดินหากินอิสระได้
ข้อ 72 ถูกกกกกกกกก ดีจายเจงๆ ขี้เกียจพิมพ์เฉลย ยาวโพดๆๆ
ข้อ 73 ตอบข้อ 1 และ 3 sporophyteของมอสพึ่งพาและได้อาหารจาก gametophyte จึงเป็นเหมือนปรสิต แต่ถ้าคิดว่าเป็นอยู่รอดของสปีชีส์ sporophyte และ gametophyte ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเพราะวงจรชีวิตเป็นแบบสลับจึงเป็นแบบ mutualism
ข้อ 74 ถูกค่ะ
ข้อ 75 ไม่รู้เลย งั้นเฉลย ข้อ 1 A คือสปอโรไฟต์ของเฟิน Cคือ สปอร์ไฟต์ของมอส Bคือแกมีโทไฟต์ของเฟิน Dคือแกมีโทไฟต์ของมอส
ข้อ 76 ไม่รู้อีก แกล้งคนเฉลยแน่เลย เฉลย ข้อ 3 กล้วยไม้คือพืชดอก มีปอร์โรไฟต์เจริญกว่าแกมีโทไฟต์และแกมีโทไฟต์เจริญอยู่บนสปอโรไฟต์ตลอดชีวิตคือถุงเอมบริโอ เจริญอยู่บนต้นพืชตลอดชีวิต
ข้อ 77 ถูกๆๆๆ
ข้อ 78 ถูกๆๆ
ข้อ 79 ผิด แง้ววว ไปสวดมนต์ก่อนเด้อ พรุ่งนี้เฉลยข้อ 79 ต่อค่ะ
ข้อ 79 ตอบข้อ 1 ราขนมปังและสาหร่ายสไปโรไจราจะมีการสืบพันธุ์แบบ conjugation โดยมีการเทียบสายแล้วเกิดการรวมกันของโพรโทพลาซึมซึ่งต่อมาจะเจริญไปเป็นราขนมปังและสาหร่ายสไปโรไจราได้อีก
ตอบลบข้อ 80 ผิดอีก ตอบข้อ 4 จะต้องมีeggมากกว่า 1 และ spermต้องมากกว่าหนึ่งด้ัวย เพราะว่า สเปิร์มบวกไข่ ชาย สเปิร์มบวกไข่หญิง อย่างน้อยสุดต้องใช้ไข่และสเปิร์มอย่างละ 2เซลล์จึงเกิดแฝดชายญิงได้4คน
ข้อ 81 ผิดอีกแว้ว TT เฉลยข้อ 4 การงอกใหม่ในพวกกุ้ง ปู หรือปลาดาวจะถูกควบคุมโดยนิวเคลียสไซโทพลาซึมและสภาพแวดล้อมภายนอกโดยปัจจัยเหล่านี้จะร่วมกันในการควบคุมการงอกใหม่
ข้อ 82 ถูกๆๆๆๆ
ข้อ 83 ผิดดดด เฉลยข้อ 2 ผึ้งตัวผู้มีโครโมโซมชุดเดียว haploid numberเนื่องจากไข่ไม่ได้รับการผสมจากสเปิร์มและโพลาร์บอดี้ก็มีโครโมโซมชุดเดียว เนื่องจากผ่านขบวนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสมาแล้ว สำหรับผึ้งตัวเมียจะมีโครโมโซม 2n
ข้อ 84 85 86 87 88 ถูกต้องค่ะ
ข้อ 89 ผิด เฉลยข้อ 3ในผู้หญิงจะมีไข่ตกทั้งสิ้นประมาณ 400ฟอง ตั้งแต่ประมาณอายุ 12-45 ปี โดนตกเดือนละฟองสลับกันระหว่างรังไข่ซ้ายและขวาฃ
ข้อ 90 ผิด เฉลยข้อข้อ 3 การตัดท่อนำไข่และตัดท่ออสุจิเป็นการทำหมันถาวรที่มีผลกระทบกระเทือนต่อความต้องการทางเพศน้อยสุด เพราะร่างกายสามารถสร้างฮอร์โมนเพศได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งควบคุมการความต้องการทางเพศได้ตามปกติเพราะไม่มีการทำลายอัณฑะและรังไข่ให้ได้รับความเสียหาย
ข้อ 91 ผิด เฉลยข้อ 4 ในขณะที่มีประจำเดือนฮอร์โมนestrogen และprogesteroneลดลงอย่างมากผนังมดลูกไม่ได้รับการกระตุ้น ทำให้ผนังมดลูกถูกทำลายเลือดและเนื้อเยื่อบางอย่างที่ผนังมดลูกหลุดออกมาเป็นประจำเดือน
ข้อ 92 93 ถูกค่ะ
ข้อ 94 ผิดค่ะ เฉลยข้อ 4 corpus luteum คือผนังรังไข่ที่เจริญมากจากgranulosa cell โดยไข่ที่เจริญและหลุดออกมาจากfollicleแล้วเซลล์ของfollicleจะเจริญไปเป็น corpus luteumซึ่งมีสีเหลืองสร้างฮอร์โมนเอสโทรเจนและprogesterone
ข้อ 95-96 ถูกค่ะ
ข้อ 97 ผิดค่ะ เฉลยข้อ 3 ในการหลั่งอสุจิ 1 ครั้งในคนปกติจะมีอสุจิประมาณ 180-500ล้านตัว
ข้อ 98 -99 ถูกต้องนะคะ
ข้อ 100 เหตุผลคืออ่านไม่ชัด
เชื่อแว้วว่าอ่านหนังสือเพื่อทำข้อสอบไม่ทัน
ที่เหลืออีก 64 ข้อจะทำต่อมั๊ยคะ!!!